ปัจจัยต่าง ๆ ใดบ้าง ที่จะสามารถส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในการขับขี่ของคุณ
คุณเคยนึกถึงปัจจัยต่าง
ๆ ใดบ้าง ที่จะสามารถส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในการขับขี่ ในขณะที่หลายคนเชื่อว่า
เมาแล้วขับเป็นความเสี่ยงที่สุดแล้วในขับขี่
แต่หากมีอาการง่วงแล้วขับไปด้วยนั้นก็เป็นหนึ่งสาเหตุที่อันตรายมากไม่แพ้กัน
ซึ่งหากผู้ขับขี่นั้นนอนน้อยกว่าปกติเพียง 2 ถึง 3 ชั่วโมงต่อวัน
จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุถึง 4 เท่าเลยทีเดียวนะ
อย่างไรก็ตามยังมีวิธีที่จะทำให้แน่ใจว่าคุณสามารถเอาชนะอาการง่วงนอนขณะขับรถ
นอนให้เพียงพอก่อนเสมอ
การพักผ่อนที่เพียงพอนั้นเป็นแนะนำที่คุณน่าจะทราบกันดีอยู่แล้ว
ซึ่งคุณควรนอนหลับอย่างน้อย 7 ชั่วโมง ก่อนออกเดินทางไกล
ด้วยจำนวนเวลาในการนอนหลับประมาณนี้จะทำให้คุณตื่นตัวและกระชับกระเฉง
รวมไปถึงสภาพจิตใจและร่างกายที่พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์บนท้องถนน และไม่ทำให้เกิดอาการหลับใน
งีบสักหน่อยก่อนขับรถ หากคุณรู้สึกว่าไม่ได้นอนหลับอย่างเพียงพอจากเมื่อคืน ลองใช้เวลาสักพักในการงีบหลับเพื่อรีเฟรชตัวเองสักนิดก่อนจะเริ่มเดินทาง จากกรณีศึกษาสามารถยืนยันได้ว่า การงีบพักสักชั่วโมงจะช่วยเพิ่มพลังที่ร่างกายต้องการจากการพักผ่อน ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการขับรถทางไกล
แวะงีบหลับระหว่างทาง
ช่วยได้ หากคุณไม่เวลาที่จะงีบก่อนออกเดินทาง
คุณต้องแน่ใจว่าคุณสามารถแวะตามปั๊มหรือจุดพักรถระหว่างทางเพื่องีบหลับสัก 20 นาที
ไม่ว่ายังไงอย่าพยายามต่อสู้กับความเหนื่อยล้า อย่าฝืนเด็ดขาด เพราะสิ่งที่ตามมาอาจจะทำร้ายตัวคุณเองและคนอื่น
ๆ ได้
อาหารก็เป็นปัจจัยหนึ่งเช่นกัน ทั้งก่อนหรือระหว่างที่กำลังเดินทางคุณอาจถูกล่อตาล่อใจด้วยอาหารฟาสต์ฟู้ดตามข้างทางต่าง
ๆ ที่ทั้งง่าย สะดวก และอร่อย ซึ่งจะดีกว่าถ้าคุณหลีกเลี่ยงสิ่งล่อใจเหล่านี้
เพราะไขมัน เกลือ และน้ำตาล
ที่เป็นส่วนผสมในอาหารเหล่านี้สามารถทำให้คุณง่วงนอนได้
ให้พยายามกินอาหารที่ให้พลังงานซึ่งจะเพิ่มความตื่นตัวและความทรหดให้มากขึ้น
อย่างพวกโปรตีนหรือคาร์โบไฮเดรต เช่น ธัญพืช ผลไม้ ผัก และเนื้อไม่ติดมัน
ล้วนเป็นตัวเลือกที่ดี
กินจุกจิกช่วยเพิ่มพลังงานได้ สิ่งสำคัญคือการรักษาระดับพลังงานของคุณในขณะขับขี่
วิธีที่ดีที่สุดก็คือการรับประทานอาหารว่างและดื่มน้ำมาก ๆ
และของว่างเหล่านั้นควรเป็นของที่ดีต่อสุขภาพด้วย เช่น ถั่ว หรือผลไม้
เพราะของว่างเหล่านี้จะสามารถช่วยเพิ่มพลังงานให้กับคุณได้ด้วย รับวิตามินให้เพียงพอ
วิตามินบางชนิดเช่น วิตามินบี และ วิตามินซี จะให้พลังงานกับคุณได้อย่างมาก
พยายามรับประทานที่ดีต่อสุขภาพที่มีวิตามินเหล่านี้อยู่ด้วยเพราะเมื่อร่างกายดูดซับวิตามินเหล่านี้เข้าไปแล้ว
จะไม่เปลี่ยนเป็นรูปแบบอื่นเหมือนอย่างพวกไขมัน เนื้อ หรือแป้ง อีกทางเลือกหนึ่งคือซื้อ
วิตามินบี และ วิตามินซี แบบเม็ดมารับประมาณก็จะง่ายขึ้น
ยืดเส้นยืดสายสักหน่อย เมื่อเกิดอาการเมื่อยล้า หากคุณรู้สึกเริ่มที่จะอึดอัดและเหนื่อยล้าจากการขับรถเป็นเวลาหลายชั่วโมง
สาเหตุมาจากการนั่งเป็นเวลานาน นั่นหมายความว่าเลือดไม่ไหลไปที่ขาและส่วนอื่น ๆ
ของร่างกาย หรืออาจจะไหลไปเลี้ยงไม่เพียงพอนั่นเอง ทางออกง่าย ๆ สำหรับปัญหานี้คือ
การแวะหยุดพักข้างทาง ร้านกาแฟ จุดพักรถ หรือปั๊มน้ำมัน เพื่อยืดแขนขา
หรือจะเดินเล่นสักพักก็ได้
การยืดเส้นยืดสายเป็นประจำจะทำให้สดชื่นและทำให้คุณมีสมาธิกับการเดินทางมากขึ้น
เปิดเพลงให้ดังสนั่น เพลงนั้นมีความสามารถพิเศษที่ส่งผลกระทบในเชิงบวกต่ออารมณ์
และสามารถลดระดับความเหนื่อยล้าของคุณได้
ดังนั้นหากคุณเริ่มรู้สึกว่าเปลือกตาเริ่มเมื่อยล้า
ลองเพิ่มระดับเสียงวิทยุหรือเครื่องเล่นเพลงให้ดังขึ้น
หรือคุณอาจจะร้องตามไปด้วยก็ได้ นั่นก็พอจะช่วยได้มากเลยทีเดียว
ดื่มน้ำให้เพียงพอและหลีกเลี่ยงคาเฟอีน ภาวะร่างกายขาดน้ำเป็นสาเหตุให้เกิดความเหนื่อยล้า
ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีขวดน้ำอยู่ข้าง ๆ และจิบน้ำเป็นระยะ ๆ
คุณควรพยายามอย่าดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนมากเกินไปเพราะอาจจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี
ซึ่งกาแฟสักแก้วคงไม่เป็นรัย เนื่องจากคาเฟอีนนั้นเป็นยาขับปัสสาวะชั้นดี
นั่นจะทำให้คุณต้องปัสสาวะบ่อย ๆ ซึ่งเป็นการลดระดับน้ำในร่างกายของคุณเช่นกันให้คนอื่น
ๆ ในรถช่วย หากคุณเดินทางไกลและมีผู้โดยสารร่วมมาด้วย
คุณสามารถขอให้พวกเขาช่วยทำให้คุณตื่นตัวอยู่ตลอด
อาจจะเป็นการขอให้พวกเขาทายคำถามเล่น หรือถามตอบเรื่องทั่วไป
นั่นจะช่วยเพิ่มความตื่นตัวขณะขับรถได้มาก
หรือคุณอาจจะขอให้พวกเขาขับแทนเป็นระยะเวลาสั้น ๆ เพื่อที่คุณจะได้งีบหลับสักหน่อย
หรืออีก1 ทางออก หาจ้างคนขับรถ สมัยนี้เชื่อว่ามีจำนวนคนที่ หางานขับรถ มากมาย
น่าจะหาได้ไม่อยากอะไร มันช่วยให้เราได้พักผ่อนในเวลาเดินทางได้เยอะเลย
ดังนั้นครั้งต่อไปที่คุณจะขับรถเดินทางไกล
ลองพิจารณานำคำแนะนำเหล่านี้ไปใช้
อาจจะช่วยให้คุณต่อสู้กับอาการเหนื่อยล้าจากการขับขี่ได้
Comments
Post a Comment